เมาแล้วขับ-จับขังจริง ศาลภ.6 นําร่องตัดสินคนแห่กลับสงกรานต์
ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สองของวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อนถึงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 เม.ย. โดยสภาพการจราจรวันที่ 10 เม.ย. ถนน 304 ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อภาคตะวันออกกับภาคอีสาน ปริมาณรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า และมีรถติดบริเวณแยกสัญญาณไฟแดง ส่วนถนนสาย 304 ช่วงกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่น
ประชาชนบางส่วนเลี่ยงไปใช้ถนนสาย 33 สุวรรณศร (กบินทร์บุรี-สระแก้ว) รวมทั้งถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว เพื่อไปใช้เส้นทางช่องเขาตะโก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว สามารถออกไปทาง จ.บุรีรัมย์ได้ ส่วนทางอุโมงค์เชื่อมผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลาน และทางขึ้นเขาศาลเจ้าพ่อปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี การจราจรยังคล่องตัว
พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ถนนสาย 304 มีปริมาณรถมากขึ้น มีรถชะลอตัวตามแยกสัญญาณไฟแดง อาทิ สามแยกระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ สี่แยกกบินทร์บุรี และแยกทุ่งโพธิ์ อ.นาดี ถึงวังขอนแดง ส่วนบริเวณบ้านหนองนมหนู อ.กบินทร์บุรี มีการก่อสร้างทางทำให้รถติดสะสม ตำรวจได้จัดให้ใช้ทางเบี่ยง ตนได้สั่งให้ทุกโรงพักประสานรถยก รถเครน พร้อมแก้ปัญหาหากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนทางลงเขาจาก อ.วังน้ำเขียว เป็นทางลงเขาที่ยาวมากรถบรรทุกมักมีปัญหาลมเบรกหมดเป็นประจำ ทางจังหวัดปราจีนบุรีได้ออกข้อบังคับให้รถบรรทุกทุกคันต้องจอดรถลงเวลา เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนการแก้รถติดตามแยกสัญญาณไฟแก้ปัญหาโดยใช้สัญญาณไฟออโต้ หากรถติดสะสมให้ตำรวจใช้ดุลพินิจเปิดปิดสัญญาณไฟด้วยมือแทน
ส่วนถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ช่วงเข้า อ.หนองแค จ.สระบุรี ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นแต่ยังคล่องตัว จนเข้าถนนมิตรภาพ การจราจรชะลอตัวช่วงขึ้นเนินสูง บริเวณทับกวาง กม.19 เนินซับบอน กม.ที่ 22-23 ไปสิ้นสุด อ.มวกเหล็ก รอยต่อเนินกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่ง พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สว.ทล.1 กก.6 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา) นำกำลังร่วมกับสมาชิกอาสาสมัครตำรวจทางหลวง ออกอำนวยความสะดวกการจราจรตั้งแต่ช่วง กม.36 ทางขึ้นเนินกลางดง ต.พญาเย็น วางกรวยยางเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งตรงข้ามจาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มาออกที่ กม.43 และที่ กม.47 หน้าหมู่บ้านปางอโศก ไปเข้าที่ กม.51 หน้าฟาร์มโชคชัย และยังเปิดช่องทางพิเศษช่วง กม.86-90 ช่วงริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เพื่อเร่งระบายรถเป็นระยะๆ
พ.ต.ท.จิระพันธ์กล่าวว่า การจราจรช่วงเย็นวาน และช่วงสายวันนี้ติดขัดช่วงขึ้นเนินกลางดงผ่านตลาดกลางดงที่มีแผงขายผลไม้ จนถึงหน้าฟาร์มโชคชัย เพราะรถแวะซื้อผลไม้และเข้าปั๊ม เมื่อผ่าน อ.ปากช่อง ก็จะติดขัดอีกช่วงลำตะคอง จากนั้นการจราจรเป็นปกติ คาดว่าการจราจรจะติดขัดไปจนถึงวันที่ 13เม.ย. แต่ในวันที่ 11 เม.ย. มีการเปิดให้ใช้ถนนมอเตอร์เวย์ (บางปะอิน-นครราชสีมา) ช่วงหน้าศูนย์พักพิงสุนัขนครชัยบุรินทร์ ไป อ.ขามทะเลสอ การจราจรบนถนนมิตรภาพจะดีขึ้น ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียม พร้อมทั้งรถและคนขับ ง่วงอย่าขับ เมาอย่าขับ และมีจุดบริการประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถแวะไปพักรถและขอความช่วยเหลือได้
ส่วนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นในช่วงบ่าย ตั้งแต่ทางต่างระดับสามแยกปักธงชัย ถึงทางขึ้น-ลงถนนมอเตอร์เวย์จนถึงบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. รถหยุดนิ่งสลับกับชะลอตัวเป็นระยะ ทำให้รถติดสะสมยาว 1 กม. นอกจากนี้ยังมีรถแซงซ้ายวิ่งบนไหล่ทาง และมีรถจอดแวะซื้อผลไม้และทุเรียนที่มีแผงตั้งริมถนนกว่า 10 จุด ตำรวจต้องนำป้ายห้ามแซงมาตั้ง พร้อมขอให้เจ้าของแผงผลไม้ขยับเข้าไปด้านในป้องกันรถติด คาดว่าช่วงเย็นค่ำถึงเช้าของวันรุ่งขึ้นปริมาณรถอาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ขณะที่เส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ถนนสายเอเชีย ช่วง จ.ชัยนาท บริเวณสี่แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นแต่ยังคล่องตัว ไม่มีรถติดสะสม เช่นเดียวกับสภาพการจราจรในตัวเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่บริเวณแยกหน้าค่ายจิระประวัตินครสวรรค์ แยกบึงบอระเพ็ด บริเวณเชิงสะพานเดชาติวงศ์ ไปจนถึงแยกอุทยานสวรรค์ รถหนาแน่นเพราะมีแยกสัญญาณไฟจราจรหลายจุด ส่วนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก รถหนาแน่นตลอดทั้งเส้น แต่ยังทำความเร็วได้ดี
ขณะที่ถนนเพชรเกษม ช่วง จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือประตูภาคใต้ ปริมาณรถเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 8 เม.ย. แต่รถเคลื่อนตัวได้ดี โดย พ.ต.ท.สาโรจน์ เปี่ยมเจริญ สารวัตร ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล.(ทางหลวงประจวบ คีรีขันธ์) เปิดเผยว่า การจราจรบนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ อ.หัวหิน ถึงบางสะพานน้อย มีปริมาณรถมาก แต่เคลื่อนตัวได้ดี มีรถสะสมบ้างบางจุด ส่วนที่รถมากเป็นพิเศษคือ จุดแยกห้วยมงคล หัวหิน และแยกปราณบุรี อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถเคลื่อนตัวสะดวก ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกตามแยกและจุดกลับรถ ส่วนบริเวณสี่แยกหลักควบคุมโดยตำรวจภูธร โดยปล่อยสัญญาณไฟขาล่องใต้ให้นานขึ้น
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯแสดงความห่วงใยและได้กำชับกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ กำชับให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด กรณีพบพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎจราจร และพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถด้วยความเร็วเกินกําหนด เมาสุรา เพื่อสร้างความมั่นใจ และสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และขอให้ประชาชนระมัดระวัง ขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท มีสติ ดื่มไม่ขับ พร้อมกันนี้ยังกำชับกระทรวงสาธารณสุขดูแลด้านสุขอนามัยประชาชนด้วย โดยเฉพาะการรวมกลุ่มบริเวณปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ ต้องไม่แออัดจนเกินไป
พล.ต.ต.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกตร. กล่าวถึงการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ว่า ฝากประชาสัมพันธ์แนวทางการดูแลตัวเองและคนในครอบครัวให้มีความปลอดภัยด้วยการเช็กลิสต์ก่อนบึ่งไปเที่ยว เช็กลิสต์แรก คือ เช็กคน ผู้ขับขี่ ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ มีสติ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือเสพของมึนเมา ควรเตรียมหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เช็ดมือให้พร้อม ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช็กรถ สภาพรถต้องพร้อม และเช็กบ้าน ติดเหล็กดัด กล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมย และปิดล็อกประตูหน้าต่างตัดโอกาสของมิจฉาชีพ เช่น ไม่สั่งสินค้าออนไลน์ในช่วงไม่อยู่บ้าน ติดระบบตัดไฟอัตโนมัติ ฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้าน ญาติ หรือตำรวจ สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ฝากบ้าน 4.0” (OBS i-Service) หรือติดต่อที่สถานีตำรวจที่บ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ส่วน นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลพบว่าการดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับมีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆ ขอให้ผู้ขับขี่รถปฏิบัติตามกฎหมายไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เสพยาเสพติด ขณะขับขี่สวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัยลดความเสี่ยงการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รณรงค์มาตรการบังคับใช้กฎหมาย “เมาแล้วขับ จับขังจริง” ช่วงวันที่ 11-17 เม.ย. คุมเข้ม 7 วันระวังอันตราย โดยนำร่องพื้นที่เขตอำนาจศาลภาค 6 (จังหวัดภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง) เพื่อสร้างความตระหนักแก่ผู้ขับขี่และลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ หากพบการกระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกส่งตัวฟ้องศาล ศาลจะพิจารณาพิพากษาลงโทษตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โทษมีตั้งแต่จำคุก รอลงอาญา การสั่งคุมประพฤติ
ซูเปอร์โพลนำเสนอผลสำรวจ เรื่อง สงกรานต์ปีนี้ ประชาชนอยากได้อะไร จากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,100 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.7 อยากเห็นเศรษฐกิจดี มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น รองลงมาร้อยละ 97.6 อยากใช้ชีวิตตามปกติ โควิดหายไป ยอดผู้ติดเชื้อลดลง ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.1 อยากเห็นเปิดเมือง เปิดธุรกิจการค้าขายดี ควบคุมโควิดเข้มคู่มาตรการสาธารณสุข ร้อยละ 95.3 อยากเห็นความปลอดภัยทางถนนยอดอุบัติเหตุลด และร้อยละ 94.2 อยากเห็นครอบครัวได้กลับบ้าน รวมเครือญาติช่วงเทศกาล ส่วนความกังวลของประชาชน พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 กังวลไม่มีเงินใช้ เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีจะกินร้อยละ 94.7 กังวลความไม่ปลอดภัยจาก อาชญากรรม ยาเสพติด ร้อยละ 94.3 กังวลติดโควิด จำนวนผู้ติดเชื้อ ป่วยหนัก เสียชีวิตเพิ่ม ร้อยละ 92.1 กังวลอุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต และร้อยละ 86.8 กังวลค่าครองชีพสูงจากผลกระทบภัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เย็นวันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพการจราจรถนนพหลโยธิน จากต่างระดับบางปะอิน จ.พระนคร ศรีอยุธยา ไปจนถึง จ.สระบุรี เชื่อมต่อถนนมิตรภาพ บริเวณเนินทับกวาง เนินกลางดง เนินคลองไผ่ จ.นคร ราชสีมา จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่าช่วงตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.จนถึงวันนี้มีปริมาณรถเพิ่มขึ้น เพราะประชาชนบางส่วนหลีกเลี่ยงการจราจรช่วงวันสงกรานต์จากข้อมูลกรมทางหลวงพบว่า วันที่ 9 เม.ย มีรถออกมากถึง 591,573 คัน และวันที่ 10 เม.ย. คาดว่าจะมีรถออกกว่า 550,000 คัน เชื่อว่าในวันที่ 12 เม.ย. จะมีปริมาณรถออกมากสุดถึง 620,000 คัน ต้องนำมาคำนวณในการบริหารกำลังพลให้เหมาะสมเพื่อให้บริการประชาชน
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า รถบรรทุกเป็นสาเหตุที่ทำให้การจราจรชะลอตัว ต้องจำกัดปริมาณ โดยห้ามวิ่งบนเส้นทางขาออกวันที่ 12-13 เม.ย. ขากลับวันที่ 16-18 เม.ย. อนุญาตให้วิ่งได้เฉพาะรถบรรทุกสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน เช่น เชื้อเพลิง อาหาร ส่วนการใช้ช่องพิเศษเร่งระบายรถในขากลับเริ่มวันที่ 15-18 เม.ย. จะเปิดใช้ช่องทางพิเศษในวันที่ 15-18 เม.ย. ส่วนการกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก ตั้งแต่วันที่ 4-9 เม.ย. พบการกระทำผิด เช่น เมาแล้วขับ 874 ราย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 148,088 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3,875 ราย หากพบอุบัติเหตุ หรือรถเสีย แจ้งได้ที่สายด่วน บก.ทล. 1193 หรือ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 หรือ สายด่วน บก.จร. 1197 ตลอด 24 ชม.
