ออนไลน์บ้านผือนิวส์

"รถเริ่มหนึบ" ปชช.ทยอยแห่กลับ "สงกรานต์" คาด 12 เม.ย.นี้ รถหนาแน่นสุด

"รถเริ่มหนึบ" ปชช.ทยอยแห่กลับ "สงกรานต์" คาด 12 เม.ย.นี้ รถหนาแน่นสุด

รอง ผบ.ตร.ตรวจสภาพการจราจร หลังประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วง "สงกรานต์" คาด 12 เม.ย.นี้ รถหนาแน่นสุด

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 65 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจราจร ได้เดินทางมาตรวจการปฏิบัติงานของศูนย์บริหารจราจร กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร. และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสภาพและปัญหาการจราจรทั้งในเขต กทม.และภูมิภาค นับตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ตรวจสอบสภาพการจราจรไปตามเส้นทางถนนพหลโยธิน จากต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึง จ.สระบุรี เชื่อมต่อถนนมิตรภาพ บริเวณเนินทับกวาง เนินกลางดง เนินคลองไผ่ จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจดูสภาพการจราจร และจุดที่เป็นปัญหารถชะลอตัว

โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชน ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกำชับให้กวดขันผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับสภาพการจราจร ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.จนถึงวันนี้ พบว่า มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนพยายามหลีกเลี่ยงการจราจรช่วงวันสงกรานต์ จากข้อมูลกรมทางหลวงในวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา มีรถออกมากถึง 591,573 คัน และในวันนี้ (10 เม.ย) คาดว่าจะมีรถออกกว่า 550,000 คัน ซึ่งเชื่อว่าในวันที่ 12 เม.ย.นี้ จะมีปริมาณรถออกมากสุดถึง 620,000 คัน ตัวเลขเหล่านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะต้องนำมาคำนวณในการบริหารกำลังพลให้เหมาะสม เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับแผนการเร่งระบายรถนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเน้นอำนวยการจราจรบริเวณจุดที่ไม่สามารถคืนพื้นผิวการจราจรได้ทั้งหมด เช่น จุดก่อสร้างทาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถขาออก โดยเฉพาะ ถ.มิตรภาพ ช่วงเนินกลางดง (กม.31-34), เนินทับกวาง (กม.24-43) และต่างระดับสีดา (กม.238-241) รวมทั้ง ถ.ตาพระยา-โนนดินแดง (กม.76-81) ซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรชะลอตัวทุกปี เนื่องจากเป็นเนินสูง มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะๆ เพื่อหอบเอามวลรถให้พ้นจุดที่หนาแน่น

วันพรุ่งนี้ (11 เม.ย) ไปจนถึงวันที่ 14 เม.ย. 65 จะเริ่มเปิดช่องทางพิเศษมอเตอร์เวย์ M6 เพื่อเร่งระบายรถที่จะเดินทางไปภาคอีสานเหนือ เริ่มจาก กม.65 ถ.มิตรภาพ เบี่ยงออกซ้ายเข้า M6 ผู้ที่จะเดินทางไปชัยภูมิ จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.201 ที่ต่างระดับสีคิ้ว ส่วนรถที่จะมุ่งหน้าไปจังหวัดขอนแก่น จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.204 ที่ต่างระดับขามทะเลสอ รวมระยะทาง 64 กม. ส่วนเที่ยวกลับจะเปิดใช้ช่องทางพิเศษในวันที่ 15-18 เม.ย.65 ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยเร่งระบายมวลรถได้จำนวนมาก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อีกสาเหตุที่ทำให้การจราจรชะลอตัว คือ รถบรรทุก จึงต้องมีการจำกัดปริมาณรถบรรทุกในวันที่ 12-13 และ 16-18 เม.ย.โดยจะพิจารณาอนุญาตเฉพาะรถบรรทุกสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน เช่น รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยในห้วง 1-9 เม.ย.มีการยื่นคำร้องเข้ามา 24,307 คัน และอนุญาตให้ทำการวิ่งได้ 22,493 คัน สำหรับอีก 1,814 คันที่ไม่อนุญาต เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว เช่น รถบรรทุกหิน ดิน ทราย เป็นต้น

ส่วนความกังวลเรื่องประสิทธิภาพของผู้ขับขี่รถโดยสารนั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าไปประสานสถานีขนส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร), สถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัย และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) เพื่อทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และสารเสพติดผู้ขับขี่รถโดยสาร เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งตั้งแต่ 8 เม.ย.จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ขับขี่รถโดยสารมีแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดในร่างกาย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า สงกรานต์ปีนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้ประชาชนเดินทางกลับอย่างปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด กำชับให้ตำรวจกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 4-9 เม.ย.พบการกระทำผิด เช่น เมาแล้วขับ จำนวน 874 ราย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 148,088 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3,875 ราย ซึ่งมาตรการทั้งหมดที่ดำเนินการมานั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจรให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดกฎจราจร จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายบนท้องถนน ทั้งนี้หากพบอุบัติเหตุหรือรถเสีย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ทล. 1193 หรือ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 หรือ สายด่วน บก.จร. 1197 ตลอด 24 ชม.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื้อโฆษณา

ออนไลน์บ้านผือนิวส์