คิวแทรก แทรกคิวรัฐบาล โดยขวัญใจคนเดิมของปีกด้อมส้ม “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่อนหนังสือถึงสมาชิกพรรคและแฟนคลับพรรคก้าวไกล ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค
เปิดทางให้เลือกหัวหน้าพรรคใหม่ มาทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน”
เหตุผลก็อย่างที่ “ทิม พิธา” เอ่ยอ้าง เนื่องจากตัวเองโดนล็อกการทำหน้าที่ สส.จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้ในระยะเวลาอันใกล้ จำต้องปิดฉาก “บทนำ”
ผู้ที่จะเข้ามาถือธงนำพรรคส้มคนใหม่ และนำทัพฝ่ายค้าน คาดการณ์กันทั้ง “อาจารย์ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค เต็งหนึ่งหลังโดดเด่นจากคิวอภิปรายนโยบายรัฐบาล ขณะที่ “เลขาฯต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก็หนักแน่นในเนื้อหาและหลักการ
กระทั่งชื่อ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าทีมสื่อสารนโยบายพรรค ที่วางไว้เป็นผู้นำแถวต่อไป ทรงดีมีกระแส ก็อาจพาสชั้นมาเลยก็เป็นได้เป็นหัวข้อสำคัญที่แกนนำเครือข่ายส้ม ต้องหารือจัดทัพกันใหม่ พร้อมกับปัจจัยใหญ่ในการพิจารณา ปม “เหตุฉุกเฉิน” ยุบพรรค โละกรรมการบริหาร ต้องคิดเผื่อ แถว 3-4-5 ยาวๆไป
เช่นกัน คิว “พิธา” ไขก๊อก แจกแจงความสำคัญบทบาท “ผู้นำฝ่ายค้าน” ก็เท่ากับ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ มีโอกาสต้องเสียสละจากบัลลังก์ เพื่อแก้ปมเงื่อนกติกา ผู้นำฝ่ายค้านต้องไม่มาจากพรรคการเมืองที่มี สส.เป็นประธาน-รองประธานสภาฯ
“ทั่นรองหมูกระทะ” จ่อได้บันทึกประวัติงานใหญ่เพียงเท่านี้
และจากคิวขวัญใจหน้าสื่อคนเดิม มาโฟกัสที่พระเอกหน้าจอหน้าสื่อคนใหม่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ก็ยังครองกระแส ในฐานะนายกฯและ รมว.คลัง
ข่าวคราวผู้นำจากจุดเริ่มต้นทำงาน สื่อรายงานกันไม่หวาดไม่ไหว จบแถลงนโยบาย โปรแกรมงานยาวเหยียด ทั้งตะลอนเมืองเหนือ ประชุมสารพัดกลุ่มรายวัน จนกระทั่งเตรียมโกอินเตอร์ ประชุมยูเอ็นสัปดาห์หน้า
แต่ที่ต้องโฟกัสประชุม ครม.นัดแรก เริ่มต้นหรูกับบทสายเปย์อัดฉีดกระฉูด ทั้งตรึงน้ำมันดีเซล หั่นค่าไฟ พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี รวมทั้งแผนปั๊มรายได้ประเทศ ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน ฯลฯ
ดันมาสะดุดก็ตรงมาตรการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือน กระตุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่ม จนต้องแก้ไขหน้างาน ดาหน้ายืนยัน เป็น “ทางเลือก” ของข้าราชการ
เพราะแค่นัดแรกก็ปั่นป่วนแล้ว นอกจากประเด็น “ข้อสั่งการ” กว่า 20 ข้อของผู้นำ ต้องแม่นเงื่อนไขแตกต่าง มติ ครม.หรือบทบัญญัติกฎหมาย ตัวอย่างจากคิวหลุด “แบ่งจ่ายเงินเดือน ขรก.”
รวมทั้งจากคิวโฆษกพลั้งปากเรื่องรื้อโละคำสั่ง ประกาศ คสช.-หัวหน้า คสช. ทำได้ง่ายจัง แค่ออกมติ ครม.
ยังไม่รวมคิวปากไวของ รมต.แต่ละกระทรวง ประเภท แก้หนี้สินครู โดยครูต้องเปลี่ยน ใช้รถยนต์ร่วมกัน ไปงานสังคม ให้ไปล้างจานถ้าไม่มีเงินใส่ซอง กระทรวงคุณหมอ รอเปิดบริการ ช็อปปิ้งโรงพยาบาล รักษาได้ทุกที่ ฯลฯ
รัฐบาลเศรษฐา 1 คงต้องเขย่าทีมกันอีกหลายรอบ
ในหลักการที่พอมองเห็น และ “นายกฯเศรษฐา” จับหลักได้ ยอมรับว่าตัวเอง “ใจร้อน” กับเรื่องงาน ชนิดบางครั้งอาจจะเข้าไปพักที่ “บ้านนรสิงห์” ทำเนียบฯ เพื่อสะดวกทำงานบนเก้าอี้ผู้นำ
แต่สำหรับเรื่อง “อารมณ์” นายกฯบอก เป็นปกติธรรมดา “ร้อนเป็นบางครั้ง” ตบะไม่แตกง่ายทำนองนั้น
รวมไปถึงการเก็บงำข้อมูล บทเรียนจากสารพัด “คิวหลุด”
ถ้ายังไม่ชัวร์ ดูแล้วผู้นำไม่ “ปากไว” ให้เป็นเรื่อง
ถึงได้เห็นอุบไต๋ เมื่อถูกถามถึงเงิน 5.6 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้อัดฉีดนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท” ให้คนไทย 50 กว่าล้านคน
ถูกถามหลายครั้งก็ยืนยันแค่ มีแหล่งที่มา ไม่ต้องกู้ ไม่ใช้เงินกองทุนหมุนเวียน สถาบันการเงินรัฐ
ยื้อเวลาเอาให้ชัด ให้รออีก 2 สัปดาห์จะชี้แจง
สไตล์นายกฯซีอีโอ แม้เร่งเครื่องไว แต่ก็ต้องระวังทุกย่างก้าวทุกคำพูด
หากเข้าพรวดเดินพลาด ต้องเคลียร์ “หน้างาน” กันเหนื่อย.
ทีมข่าวการเมือง
