โควิดเป็นเหตุ!! 3 ผู้ต้องขังหลบหนีจากห้องกักโรค เรือนจำหนองคาย สายตรวจพบ บอกถูกไล่ตีมา
เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.เศษ 3 พฤษภาคม 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย ว่ามีเหตุผู้ต้องขังชาย จำนวน 3 คน เป็นผู้ต้องขังชาวไทย 2 คนและผู้ต้องขังชาวลาว 1 คน คือ นายรังสิวุฒิ ศิริสุรัตน์ คดียาเสพติด , นายพัฒนพงษ์ ช่วยแสง คดียาเสพติด และท้าวสด โพนสิงห์ คดียาเสพติด อาวุธปืน ลักลอบเข้าเมือง (ชาวลาว) หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดหนองคาย
เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงได้แยกตัวมาไว้ที่อาคารฝึกอาชีพที่ได้ปรับเป็นห้องกักโรค ซึ่งทั้ง 3 คนสวมเสื้อผ้าแบบคนปกติทั่วไป จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 2 พฤษภาคม 65 ผู้ต้องขังที่หลบหนีได้ช่วยกันเจาะฝ้าเพดานห้องกักโรค งัดแกรงเหล็ก ก่อนจะใช้บันไดพาดกำแพงเรือนจำ ปีนข้ามกำแพงฝั่งที่เป็นโรงครัวออกไป แล้วห้อยตัวด้วยสายไฟฟ้าเก่าลงพื้นหลบหนีไปได้ จนกระทั่งในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่เรือนจำเข้ามาตรวจนับจำนวนและตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องกักตัว จึงรู้ว่ามีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามจับกุม
ในช่วงเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 3 พฤษภาคม 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดสายฟ้า สภ.เมืองหนองคาย ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังเดินอยู่บริเวณริมถนนซอยประปา ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แต่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำ จึงได้หยุดถามว่ากำลังจะไปไหน ก็ได้รับคำตอบว่าถูกไล่ทำร้ายมากำลังจะกลับบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจสังเกตเห็นทั้ง 3 คนไม่สวมรองเท้าและท่าทีมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อจะได้สอบถามให้ละเอียด ทั้ง 3 คนจึงได้วิ่งเข้าละเมาะอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จนกระทั่งตอนเช้าหลังจากที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ จึงได้รู้ว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดหนองคาย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ฯ ก็สามารถติดตามจับกุม นายรังสิวุฒิ ศิริสุรัตน์ และนายพัฒนพงษ์ ช่วยแสง ได้ที่บริเวณตึกร้างริมถนนบายพาสหนองคาย – บึงกาฬ ห่างจากเรือนจำประมาณ 1 กม. จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำรับตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนท้าวสด ผู้ต้องขังชาวลาว ที่ได้แยกการหลบหนีไปคนละทางกับผู้ต้องขังชาวไทยนั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวเพื่อกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยได้ติดตามไปที่บ้านภรรยาชาวไทยของท้าวสด ที่ ต.ชุมช้าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย แต่ก็ยังไม่พบตัว ซึ่งคาดว่าท้าวสดอาจจะหลบหนีข้ามกลับไปยัง สปป.ลาวแล้วก็ได้ แต่ก็ได้มีการประสานไปยังจุดจอดเรือ/ท่าข้ามประเพณีให้ช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ต้องขังชาวลาวที่ยังหลบหนีอยู่
