กทม. เตรียมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 6 แขวง ให้เข้าเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาตามข้อบัญญัติ คาด หากฝนไม่ตกเพิ่มในเขตลาดกระบัง ไม่เกิน 7 วันน้ำลด
วันที่ 15 ก.ย. 2565 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ สืบเนื่องจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 7 ก.ย. 2565 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 13 ก.ย. 2565 ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเขตที่ได้รับผลกระทบ อาทิ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง โดยมีการบูรณาการร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำในถนนสายหลัก ถนนสายรอง และซอยย่อยในพื้นที่ ลงสู่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองรางอ้อ รางแก้ว คลองไผ่เขียว คลองหลุมไผ่
SPONSORED
ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ด้านตะวันออก เขตที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง อาทิ ลาดกระบัง ประเวศ หนองจอก การระบายน้ำจะแบ่งออกเป็น ด้านตะวันออก โดยสถานีสูบน้ำคลองแสนแสบและสถานีสูบน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ ผ่านพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ลงสู่แม่น้ำบางปะกง ด้านใต้ จะระบายออกผ่าน จ.สมุทรปราการ ตามแนวคลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า คลองจรเข้ใหญ่ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ลงสู่สถานีสูบน้ำของกรมชลประทานออกสู่อ่าวไทย และบางส่วนจะระบายเข้าสู่พื้นที่ กทม.ชั้นใน ผ่านคลองแสนแสบเข้าสู่อุโมงค์พระรามเก้า และคลองประเวศบุรีรมย์ต่อเนื่องคลองพระโขนงเข้าสู่สถานีสูบน้ำพระโขนงเพื่อสูบออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ มีปริมาณน้ำในพื้นที่มากจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำจากพื้นที่ กทม. ออกไปทางด้านตะวันออกและด้านใต้ทำได้น้อย เพราะ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สมุทรปราการ ก็มีระดับน้ำสูงเช่นกัน การระบายน้ำออกไปจะส่งผลกระทบกับประชาชนในจังหวัดข้างเคียง กทม. จึงจำเป็นต้องลำเลียงน้ำเข้ามาในพื้นที่ กทม.ชั้นใน ผ่านคลองแสนแสบและคลองพระโขนง ซึ่งมีระยะทางไกลและทั้ง 2 คลองยังต้องระบายน้ำในพื้นที่ กทม.ชั้นในด้วย ทำให้การระบายน้ำในพื้นที่ตะวันออกนอกคันกั้นน้ำพระราชดำริต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำ ขณะนี้มีการประสานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งสูบน้ำผ่านทางด้านตะวันออกและด้านใต้โดยสถานีสูบน้ำของกรมชลประทาน
ปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุต่อไปอีกว่า ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตกในพื้นที่ กทม. เกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วม แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ส่วนที่ 1 เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตบางเขน น้ำสูงสุดที่คลองเปรมประชากร 1.56 เมตร ปัจจุบันเหลือ 1 เมตรแล้ว ขณะนี้ในเขตบางเขนตามซอยต่างๆ ลดลงเกือบหมดแล้วเช่นกัน คาดว่าถ้าฝนไม่ตกอีก 2-3 วัน จะเข้าสู่สภาวะปกติ
- ส่วนที่ 2 เขตลาดกระบัง เขตประเวศ เขตหนองจอก สถานการณ์น้ำลดลงไปประมาณ 50 เซนติเมตร อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น
อีกทั้งเมื่อวานนี้
(14 ก.ย. 2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.)
ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เขตหนองจอก และทำให้เห็นว่าระดับน้ำเริ่มลดระดับ
และผู้ว่าฯ กทม. ขอให้ กอนช.ทำทางด่วนน้ำตัดไปออกแปดริ้ว
รวมถึงตัดสินใจเปิดประตูน้ำลาดกระบัง และกระทุ่มเสือปลา
ทำให้น้ำลดลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าไม่เกิน 7 วัน
ถ้าฝนไม่ตกเพิ่มน้ำจะลดลงทั้งหมด สถานการณ์น้ำบริเวณรอบนอกน่าจะดีขึ้น
ส่วนสถานการณ์น้ำเหนือผ่านบางไทร ยังอยู่ในระดับที่รับได้
ทำให้ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวล ซึ่งพื้นที่ฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 17
เขต ให้สำนักเขตที่มีพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมเฝ้าระวังไว้ก่อน
SPONSORED
ทางด้าน ผศ.ดร.ทวิดา กล่าวเสริมในส่วนของการให้ความช่วยเหลือประชาชน ว่า กทม. บูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน จัดรถบริการรับ-ส่งประชาชน แจกจ่ายสำเร็จรูปพร้อมทาน ถุงยังชีพ การให้ความช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียง แจกชุดยาทาน้ำกัดเท้าและยาสามัญประจำบ้าน จัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย ติดตั้งห้องน้ำชั่วคราว จัดทำทางเดินสะพานไม้ และทางเดินกระสอบทรายเข้าชุมชน แจกจ่ายอุปกรณ์ เช่น รองเท้าบูท กระสอบทราย นอกจากนี้ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ณ สำนักงานเขตในพื้นที่ เพื่อร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา โดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้การสนับสนุนช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม
กทม. เตรียมออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล เพราะเป็นการประกาศเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กทม. ตามกฎหมายและระเบียบที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณา ได้แก่ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2536 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555 ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2555, (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 และ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2564 โดยมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ดังนี้
SPONSORED
1. น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลัน ทำให้โครงสร้างบ้านเรือนได้รับความเสียหาย
2. บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และโครงสร้างบ้านได้รับความเสียหายไม่สามารถพักอาศัยได้
3. ต้องเป็นบ้านพักที่อยู่อาศัยประจำ และต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่ทางสำนักงานเขตออกให้เป็นหลักฐาน ได้แก่
- บ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน
- บ้านเช่า ผู้เช่าเป็นผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ ในกรณีที่บ้านพักอาศัย/บ้านเช่ามีหลายชั้น ให้ได้รับเงินช่วยเหลือเฉพาะชั้นที่มีน้ำท่วมถึงเท่านั้น
- ที่อยู่อาศัยอื่นๆ ของประสบภัย เช่น บ้านพักอาศัยอยู่เป็นประจำแต่ไม่มีทะเบียนบ้าน เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์ที่ผ่านมา
กทม. พยายามปรับให้มีศูนย์กลางของข้อมูล
เมื่อเขตทราบข้อมูลว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ หน่วยทุกหน่วยของ กทม.
จะออกไปเตรียมพร้อมก่อน และให้การช่วยเหลือต่างๆ
ทั้งการอำนวยความสะดวกประชาชน การประสานด้านการจราจร
และการเดินทางของประชาชน รวมถึงมีการทำสุขาชั่วคราว การทำถุงยังชีพ
อีกทั้งขณะนี้สำนักงานเขตกำลังทำข้อมูลทั้งหมดเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
และการประกาศพื้นที่สาธารณภัยเพิ่มเติม
“ยืนยันว่าไม่ได้ประกาศพื้นที่สาธารณภัยเพื่อให้เกิดความวิตกกังวล แต่เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของ กทม. ในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเดิม กทม. สามารถเยียวยาตามเกณฑ์ได้ แต่การประสานขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการประกาศเขตภัยพิบัตินั้น แม้จะได้รับการเยียวยาแต่ต้องไม่ซ้ำประเภทกัน”
ขณะที่กรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เขตลาดกระบังเมื่อวานนี้ ช่วยทำให้การประสานงานเร็วขึ้นด้วยหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าการประสานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำเนินการมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่การมาของ รมว.มหาดไทย เพื่อให้เห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ ส่วนเกณฑ์เยียวยาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีอยู่เดิมมาก่อนแล้ว และก่อนหน้านี้ใช้ทรัพยากรของ กทม. เป็นหลัก
SPONSORED
สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยที่จะประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย ทั้งหมด 6 พื้นที่ในเขตลาดกระบัง ประกอบด้วย
- แขวงลาดกระบัง
- แขวงคลองสองต้นนุ่น
- แขวงคลองสามประเวศ
- แขวงขุมทอง
- แขวงทับยาว
- แขวงลำปลาทิว
{Fullwidth}