ออนไลน์บ้านผือนิวส์

วิโรจน์ รับนักเลง แต่พร้อมประนีประนอมปชช. เชื่อ คะแนนเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าปี 62

วิโรจน์ รับนักเลง แต่พร้อมประนีประนอมปชช. เชื่อ คะแนนเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าปี 62

กินข้าวเย็นกับผู้ว่า "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" มั่นใจ คะแนนเสียงคนกรุงฯ ครั้งนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 62 รับเป็นคนนักเลง แต่พร้อมประนีประนอมหากเป็นเรื่องปชช. ชี้ เรื่องบุญคุณน่ากลัวกว่านายทุน

วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 18.30 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล ร่วมวง #กินข้าวเย็นกับผู้ว่า กับไทยรัฐพลัส และไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยสนทนาโดย "นิ้วกลม" สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ และ อรพิณ ยิ่งยงพัฒนา บรรณาธิการบริหารไทยรัฐออนไลน์

โดย นายวิโรจน์ ได้ชี้แจงถึงเรื่องการใส่แว่นที่กลมข้าง เหลี่ยมข้าง ว่า เป็นเพราะโลกมีหลายมุม พร้อมยอมรับว่า ช่วงคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล มีการสรรหาคนนอกด้วย โดยมีทั้งหมอ นักธุรกิจ และอดีตข้าราชการ ส่วนตนเองที่สมัครจะลงผู้ว่าฯ กทม. คนในพรรคก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่า การมาลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ได้ต้องการมาเขย่า แต่ต้องการมาชนะจริงๆ โดยได้พูดติดตลกยอมรับว่า "ตนเองนั้น โคตรนักเลงเลย เพราะตอนนี้รู้สึกเป็นนักเลง โดยเราอ่อนน้อมต่อประชาชน แต่ยืนตรงข้ามกับเผด็จการ แต่ถ้าเป็นเรื่องประชาชน ตนเองก็ยอมประนีประนอม"

เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

ส่วนการเปิดตัวแบบท้าชน คิดว่าจะทำงานกับนายทุนยากหรือไม่ รวมถึงจะทำงานกับ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หรือมือที่มองไม่เห็นได้อย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวทันทีว่า ไม่ เพราะคน กทม.ต้องการคนที่ทำงานยึดโยงกับประชาชน โดยแต่เดิมตนเองเคยมองว่ามาจากคนยากจน แต่พอมาเจอวันนี้พบว่าเจอคนจนกว่า และพบว่าเมืองนี้ต่อให้พยายามแค่ไหนบางทีก็ไม่รอด

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ของคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้กับปี 2562 จะขึ้นหรือลง นายวิโรจน์ เชื่อมั่นว่าจะเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากคนกรุงเทพฯ ส่วนผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค ก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี แต่เราก็ยังต้องทำงานหนักอยู่ และจะย้ำกับผู้สมัครฯ เพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราไม่มีฐานเสียง เพื่อทำให้ดีที่สุด ส่วนมุมมองของคนรุ่นใหม่ก็เชื่อว่าอยากได้เมืองที่แฟร์ ดังนั้นหากเปลี่ยนเรื่องงบประมาณได้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนด้วย แต่หากจะบอกว่าอยากจะเปลี่ยนเมืองให้เป็นแบบเมืองใดในโลกคงยาก ส่วนเรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงจะทำได้จริงอย่างไร ตนเองมองว่าเป็นเพราะทำมาแล้วหลากหลายตำแหน่ง ก็เลยได้หลากหลายมุมมอง เชื่อว่าตนเองจะปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดี และหากใครคิดว่าตนเองประสานงานไม่ได้นั้นก็บอกเลยว่าทำได้ ส่วนเรื่องท้าชนกับนายทุนนั้น มองว่าเรื่องบุญคุณน่ากลัวกว่า เพราะถ้าไม่มีคำว่าบุญคุณ ก็สามารถทำให้คุยได้อย่างตรงไปตรงมา และถึงแม้ตนเองจะไม่ขึงขัง ก็พร้อมชนอยู่แล้ว เพราะตนเองเป็นคนขึ้นสุดและลงสุด บางทีถ้าเจอสิ่งที่รับไม่ได้ก็จะรับไม่ได้จริงๆ

ทั้งนี้ ยอมรับว่าเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ พรรคมีความคาดหวังกับทั้งตัวผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. เพราะถือเป็นบันไดก้าวแรกของการเป็นรัฐบาล ส่วนเรื่องการแก้ส่วยและคอร์รัปชัน มองว่าบางเรื่องทำได้เร็วและบางเรื่องทำได้ช้า โดยต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วย เพื่อจะทำให้การเปิดเผยข้อมูลโปร่งใสได้ และเรื่องนี้จะถูกเคลียร์ได้ภายใต้ ส.ก.พรรคก้าวไกล

ขณะที่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตนเองก็ไม่เชื่อเรื่องผลโพล และจะเน้นไปที่การสื่อสารนโยบายมากขึ้น ซึ่งทุกครั้งที่ได้ออกมาพูดก็มั่นใจว่าจะชนะมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าการลงสมัครในนามพรรค ย่อมเป็นบวกกว่า เพราะงาน กทม.ต้องขับเคลื่อนด้วย ส.ก. เพราะหากสภา กทม.ไม่ผ่านงบให้ งานก็จะเดินไปไม่ได้ แต่ยอมรับว่าตนเองยังตอบไม่ได้ว่าหากไม่ได้เก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. จะได้กลับไปอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค แต่เชื่อว่าตนเองจะยังคงมีบทบาทชิคๆ คูลๆ ในพรรคก้าวไกลแน่ๆ แต่ตอนนี้ยังมั่นใจว่าตนเองและทีม ส.ก.จะได้ไปทำงานด้วยกัน

ส่วนคำถามปิดท้ายว่า หากไม่ได้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ จะเลือกใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.นั้น นายวิโรจน์ ตอบว่า จะขอทำตามความตั้งใจของตนเองตั้งแต่แรก คือเลือก นายวรัญชัย โชคชนะ เพราะลงสมัครครั้งที่ 7 แล้ว และมีเจตจำนงที่เคารพการเลือกตั้งทุกครั้ง ไม่เคยฝักใฝ่เผด็จการ เคยเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และยังเคยถูกดำเนินคดีสมัย คสช. แต่ก็ไม่เคยเรียกร้องการเข้ามาสู่อำนาจด้วยวิธีอื่น และถือเป็น Active citizen (พลเมืองตื่นรู้) ที่แท้จริง.

คุณจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่ากทม.หรือไม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ข่าวแนะนำ

{fullwidth}

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื้อโฆษณา

ออนไลน์บ้านผือนิวส์