ชาวบ้านสีกายเหนือ ดีใจที่ได้รับพระพุทธรูปเก่าแก่ อายุกว่า 300 ปีกลับคืนวัด
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (30 เมษายน 65) ที่ศาลาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย / เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง , พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.หนองคาย , พ.ต.อ.พิรัช อุดมพิสุทธิคุณ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย , พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองคาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเดื่อ ได้ร่วมกันประกอบพิธีคืนพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง หน้าตักกว้างประมาณ 9 นิ้ว สูงประมาณ 24 นิ้ว อายุกว่า 200 - 300 ปี คืนให้กับวัดศรีสว่าง บ้านสีกายเหนือ หมู่ที่ 6 ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพระพุทธรูปดังกล่าวและจับกุมโจรใจบาป ที่เข้าไปขโมยในศาลาการเปรียญวัดได้ โดยมีพระอธิการภิญโญ ฐิตะธัมโม เจ้าอาวาสวัดศรีสว่าง และนายทวี เหล่าหนาด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสีกายเหนือ พร้อมผู้นำชุมชน และชาวบ้านสีกายเหนือ จำนวนหนึ่ง เดินทางมารับพระพุทธรูปฯ เพื่อนำกลับวัด
การติดตามพระพุทธรูปและโจรใจบาป ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 เมษายน 65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งความจากพระอธิการภิญโญ ฐิตะธัมโม เจ้าอาวาสวัดศรีสว่าง และนายทวี เหล่าหนาด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสีกายเหนือ ว่าพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง หน้าตักกว้างประมาณ 9 นิ้ว สูงประมาณองค์พระ ประมาณ 24 นิ้ว อายุกว่า 200 - 300 ปี ที่อยู่ในศาลาการเปรียญได้หายไป หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเดื่อ จึงได้ประสานการปฏิบัติกับชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองคาย เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุ
จากการติดตามสืบสวนเบื้องต้นได้ข้อมูลว่า พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวได้หายไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการติดต่อจากพลเมืองดีว่ามีการพบเห็นข้อความโพสในสื่อโซเชียล มีรูปพระพุทธรูปเหมือนพระพุทธรูปองค์ที่หายไป เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง และหลังจากมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวพระถูกขโมยไป ผู้ที่เช่าบูชาพระพุทธรูปฯไว้ ได้เห็นรูปพระพุทธรูปเหมือนกับพระพุทธรูปที่ตนเช่าบูชาไว้ จึงได้ประสานติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมคืนพระพุทธรูปคืนให้กับเจ้าหน้าที่ และยังให้ความร่วมมือให้ข้อมูลจนเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจนรู้ตัวผู้กระทำผิดและได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 65 จำนวน 2 คน คือนายสุรศักดิ์ คำม่วน อายุ 34 ปี และ น.ส.สุดารัตน์ สีหะปัญญา อายุ 32 ปี ชาวบ้านปากสวย ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูป ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนฯ”
จากการสอบสวนเบื้องต้นทำให้ทราบว่า ใน ช่วงกลางเดือนตุลาคม 64 เวลาประมาณ 17.00 น. – 18.00 น. ผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในวัดฯ เมื่อเข้าไปที่ศาลาการเปรียญเห็นว่าไม่มีใครอยู่และไม่ได้มีการล็อกประตู จึงได้เข้าไปขโมยพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว จากนั้นได้ นำไปขายภายในจังหวัดหนองคาย ในราคา 150,000 บาท และได้มีการเช่าบูชาต่อกันไปรวมแล้วถึง 4 ทอด ซึ่งคนสุดท้ายมีการเช่าบูชาต่อในราคา 250,000 บาท หลังติดตามพระพุทธรูปที่หายไปกลับคืนมาได้และสามารถติดตามคนร้ายที่เข้าไปขโมยมาลงโทษตามกฎหมายได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานพระอธิการภิญโญ ฐิตะธัมโม เจ้าอาวาสวัดศรีสว่าง และผู้นำชุมชน และชาวบ้านสีกายเหนือ มารับพระพุทธรูปฯ องค์ดังกล่าวนำเก็บไปรักษาไว้ที่วัด เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการบูชาต่อไป
ทางด้าน
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.หนองคาย
ได้ฝากให้ชาวบ้านทุกคนช่วยกันดูแลรักษาพระพุทธรูปที่ได้คืนให้ดี
เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์มีคนเข้ามาขโมยพระไปได้อีก
นายทวี เหล่าหนาด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสีกายเหนือ ในนามตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ถูกฝ่ายที่ได้ติดตามพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ที่หายไปจากวัดภายในหมู่บ้านกลับคืนมาให้ชาวบ้านได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าแจ้งความไม่ 1 สัปดาห์ก็ได้ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ติดตามพระพุทธรูปที่หายไปกลับคืนมาได้แล้ว ชาวบ้านทุกคนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับน้ำตาไหล ต่อจากนี้ไปก็จะได้มีการดูแลพระพุทธรูปที่ได้กลับคืนมาอย่างใกล้ชิดและจะไม่ประมาทเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ชาวบ้านคิดว่าเป็นพระพุทธรูปที่ทำคนเคารพบูชา คงจะไม่มีใครกล้าเข้าไปขโมย ต่อจากนี้ไปจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในวัด และทำกรงเหล็กปิดกั้นไว้ให้ดีไม่ประมาทอีกแล้ว อีกทั้งจะมีการตรวจเช็คทุกวัน ที่ผ่านมานั้นพระถูกขโมยไปตั้งนานก็ยังไม่มีใครรู้ จนมีคนแจ้งถึงได้รู้ เนื่องจากพระที่อยู่ในศาลาการเปรียญมีหลายองค์ ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง.