กรมศิลปากร กรมป่าไม้ และจังหวัดอุดรธานี ผนึกกำลังผลักดันภูพระบาทเข้าสู่บัญชีมรดกโลก คาดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดเดียวที่มีมรดกโลก 2 แห่ง
เย็นวันเสาร์ที่30 เมษายน 2565 ที่ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร, นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้, นายกองเอกปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ, นายมงคล มีลา นายกเทศมนตรีตำบลกลางใหญ่ และนายเอกพล ศรีทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน ร่วมกันแถลงข่าวการนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเข้าสู่บัญชีมรดกโลกและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการกำหนดรูปแบบการบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรม เพื่อนำแผนการบริหารจัดการไปปฏิบัติ โดยผู้บริหารกรมศิลปากร ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น และหัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทให้การต้อนรับ
กระทั่งเราได้ประกาศขึ้นทะเบียนภูพระบาทเป็นโบราณสถานแห่งชาติในปี 2524 วันที่ 28 เมษายน 2524 จากวันนั้นถึงวันนี้ครบ 40 ปีแล้วที่มีการประกาศ รวมถึงพื้นที่ที่มีวัฒนธรรมเดียวกันคือ วัฒนธรรมเสมา ซึ่งอยู่ที่วัดพระพุทธบาทบัวบาน เราได้ยกเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2535 จากนั้น ก็มีการพัฒนาพื้นที่มาโดยตลอด ด้วยเห็นว่าพื้นที่มีศักยภาพและอัตลักษณ์ที่โดดเด่นมีความเป็นของแท้ดั้งเดิม จึงมีการเสนอรายชื่อเบื้องต้นของมรดกโลกในปี 2547
ล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อปี 2562 เห็นชอบให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวัฒนธรรมของประเทศ โดยให้กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันการขึ้นทะเบียนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกในส่วนของภูพระบาท "ฉะนั้นเรามั่นใจว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดเดียวที่มีมรดกโลก 2 แห่ง" คือ มรดกโลกบ้านเชียง และมรดกโลกภูพระบาทแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดอุดรธานีและประเทศไทย
ความโดดเด่นของภูพระบาทนั้น มีพื้นที่ที่จะใช้ประกาศเป็นแหล่งมรดกโลกประมาณ 3,661 ไร่ มีทั้งพื้นที่ของกรมป่าไม้และพื้นที่อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ถูกนำเสนอเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมภายใต้เกณฑ์การขึ้นทะเบียนมรดกโลก 2 ข้อ ที่เป็นลักษณะที่โดดเด่น คือ เกณฑ์ข้อที่ 3 เอกลักษณ์ที่หายากยิ่งเพราะภูพระบาทลักษณะแบบนี้ไม่เคยพบที่ใดในประเทศไทยและเชื่อว่าในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือที่อื่นๆ ก็อาจจะไม่มีเหมือนเรา และเกณฑ์ข้อที่ 5 เป็นแหล่งที่มีตัวอย่างที่โดดเด่นในการปรับใช้พื้นที่ทางธรรมชาติมาเป็นพื้นที่แหล่งวัฒนธรรมในเรื่องของความเชื่อศาสนาและความศักดิ์สิทธิ์
อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และแหล่งวัฒนธรรมสีมา วัดพระพุทธบาทบัวบาน เป็นมรดกวัฒนธรรมแบบต่อเนื่อง จำนวน 2 แหล่ง ที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน ตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเขือน้ำ) บนเทือกเขาภูพาน อยู่ทางทิศตะวันตก ห่างออกมาประมาณ 12 กิโลเมตร จากอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
จากหลักฐานโบราณคดี
พบว่าบริเวณนี้มีมนุษย์เข้ามาใช้พื้นที่ทำกิจกรรมแล้วตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
โดยพบหลักฐานสำคัญ คือ ภาพเขียนสี อยู่ตามเพิงหิน
ที่ปรากฏกระจายอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท มากกว่า 47 แห่ง
มีทั้งภาพคน ฝ่ามือ สัตว์ และลวดลายเรขาคณิต
ชี้ให้เห็นถึงการเข้ามาใช้พื้นที่ของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว
3,000 ปีมาแล้ว
มีความสัมพันธ์กับหลักฐานทางโบราณคดีที่มีการค้นพบขวานหินขัด ลูกปัดอาเกต
และเศษภาชนะดินเผาเนื้อเครื่องดิน
ที่พบอยู่ตามที่ราบริมลำน้ำโมงเชิงเขาภูพาน ⛰ชาลิสา
ชมภูราษฎร์ส.ปชส.อุดรธานี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 นายวิมล สุระเสน นายอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอบ้านผือ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในไลน์กลุ่มจังหวัดอุดรธานีว่า ช่วงเวลา 03.30 น.ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง จากการสำรวจเบื้องต้น บ้านเรือน และยุ้งข้าวของราษฎร ในพื้นที่อำเภอบ้านผือ ได้รับความเสียหาย
ดังนี้ บ้านนาเจริญ หมู่ 13 ตำบลจำปาโมง บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง ,บ้านไผ่ล้อม หมู่ 10 ตำบลเมืองพาน บ้านเรือนเสียหาย 15 หลัง ,บ้านหัวคู หมู่ 1 ตำบลบ้านผือ บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง และบ้านธาตุ หมู่ 2 ตำบลหายโศก บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง ทั้งนี้อำเภอบ้านผือ อยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย และจะรายงานให้ทราบต่อไปสำหรับจุดบ้านไผ่ล้อม นางอรวรรณ เชื้อกลางใหญ่
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี อำเภอบ้านผือ เขต 1
และเป็นตัวแทน นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี
ลงสำรวจพื้นที่บ้านไผ่ล้อม ตำบลเมืองพาน พร้อม นายเอกพล ศรีทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน นายภาณุพงค์ ผิวสว่าง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน ผู้ใหญ่บ้านบ้านไผ่ล้อม และ กู้ชีพกู้ภัยองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองพาน ร่วมลงสำรวจความเสียหายเบื้องต้น
ทราบว่า พายุลงเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันนี้ ช่วงตี 4 ตนและคณะทำงาน พบว่า บ้านไผ่ล้อม หมู่ 10 ตำบลเมืองพาน มีบ้านเรือนเสียหาย 15 หลัง จะรีบประสานหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ได้ประสาน นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เพื่อลงพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงบ่ายวันนี้
ดูคลิป วีดีโอ
สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน ระวังฝนฟ้าคะนอง กทม.ตกร้อยละ 40
ไทยตอนบนเผชิญพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง กรมอุตุฯ เตือนให้ประชาชนระวังอันตรายจากลมกระโชก, ฟ้าผ่า กรุงเทพฯ มีฝนตกร้อยละ 40 ของพื้นที่
วันเสาร์ที่ 30 เม.ย. 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภัยดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกยังพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มของการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังแรงขึ้น และมีฝนเพิ่มขึ้น
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ข่าวคืบหน้าพายุฤดูร้อนถล่มอำเภอบ้านผือ
ข่าวคืบหน้าเหตุพายุฤดูร้อนเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 19 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2556 เมื่อ เวลา 03.30 น ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง จากการสำรวจเบื้องต้น บ้านเรือน และยุ้งข้าวของราษฎร ในพื้นที่อำเภอบ้านผือ ได้รับความเสียหาย ดังนี้ บ้านนาเจริญ หมู่ 13 ตำบลจำปาโมง บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง บ้านไผ่ล้อม หมู่ 10 ตำบลเมืองพาน บ้านเรือนเสียหาย 12 หลัง บ้านหัวคู หมู่ 1 ตำบลบ้านผือ บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง บ้านธาตุ หมู่ 2 ตำบลหายโศก บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง ทั้งนี้อำเภอบ้านผืออยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรียนผูใหญ่ทุกหมู่บ้านจากคืนวันพฤหัสบดีที่28เมษายน2565ที่ผ่านมาได้เกิดพายุลมแรงสร้างความเสียหายแก่บ้านเรียนประชาชน
ตามหลักเทศบาลต้องดำเนินการรายงานให้นายอำเภอจังหวัดทราบภายใน24ชั่วโมงจึงขอความอนุเคราะค์ยังท่านได้สำรวจความเสียหายพร้อมภาพถ่ายและรายชื่อของผู้ได้รับความเสียหายเข้ามายังเทศบาลเพื่อจะได้รายงานอำเภอต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลจะออกสำรวจเป็นลำดับต่อไป
โดยงานป้องกันเทศบาลตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี
ข่าวคืบหน้าความเสียหายจะนำเสนอข่าวมาให้ทราบในครั้งต่อไป สวาท เครือพิมาย
ผู้สื่อข่าวบ้านผือทีวีนิวส์รายงาน
ข่าวคืบหน้าพายุฤดูร้อนถล่มบ้านผือ ดูคลิป วีดโอ(2)
พายุฤดูร้อนถล่มบ้านผือ ดูคลิป วีดโอ(1)
วันพฤหัสบดีที่21เมษายน2565เมื่อเวลา12.22น.ได้มีรถ10ล้อพ่วงวิ่งเข้าไปในถนนเส้นกลางทั้งๆที่ป้ายจราจรติดอยู่ที่ปากซอยถนนเส้นกลาง
ป้ายใหญ่เห็นชัดเจนโดยเจ้าหน้าที่สถานีตำตรวจภูธรบ้านผือได้ติดใว้เพื่อไม่ให้รถพวงใช้ถนนเส้นนี้เพราะจะทำให้ถนนเสียหาย
แต่รถพ่วงคันนี้ฝ่าฝืนได้ขับเข้าไปในซอยถนนเส้นกลางตามที่เห็นตามภาพรถพ่วงคันนี้ไม่ไม่สนสายตาชาวชุมชนที่อยู่ในซอยนี้ถนนเส้นกลางเส้นนี้เจ้าหน้าที่สภ.บ้านผือห้ามไม่ให้รถพ่วงเข้าอยู่แล้วแต่รถพ่วงคันดังกล่าวที่เห็นตามภาพจะแก้ไขอย่างไรดีชาวชุมชนเดือดร้อน
วอนคนขับรถพ่วงครั้งต่อไปให้ความร่วมมือด้วยนะครับ เห็นมาบอกไป
ต้องใส่ใจการจราจร
เปิดโทษและค่าปรับ หากขับรถผิดกฎจราจร
- ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถบนทางเท้า ปรับ 500 บาท
- แซงในเส้นทึบ ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถขวางทางแยก ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ฝ่าสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ท่อแต่งเสียงดัง ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ติดไฟนีออนใต้ท้องรถ ติดไว้กับป้ายทะเบียน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ขับรถบนทางเท้า ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถล้ำเส้นหยุด ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 500 บาท
- จอดรถกีดขวางการจราจร ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนวางไว้ที่กระจก ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ใช้ป้ายแดงเกิน 1 เดือน หรือวิ่งระยะทางเกิน 3,000 กิโลเมตร โดยใช้ป้ายแดง ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- แผ่นป้ายทะเบียนปลอม มีความผิดทางอาญา ฟ้องศาล!
- เมาแล้วขับ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบขับขี่และสามารถยึดรถไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน
ความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 (รถส่วนบุคคล)
ซึ่งทางการขนส่งทางบก ให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้เช่นกัน โดยมีข้อหาการกระทำความผิด ได้แก่
- ดัดแปลงไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ทำให้สีของแสงไฟไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (ไฟท้ายต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวต้องเป็นสีเหลืองอำพัน)
- ดัดแปลงหรือเพิ่มเติมอุปกรณ์ส่วนควบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น เช่น รถกระบะต่อเติมตัวถัง หรือโครงหลังคาเกิน 3 เมตร
- นำวัสดุอื่นใดมาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน
- แขวนหรือติดตุ๊กตาบดบังแผ่นป้ายทะเบียน
- ทำให้ไม่สามารถมองเห็นตัวอักษรตัวเลข หรือจังหวัดได้ชัดเจน
- แก้ไขหรือดัดแปลงตัวเลขบนแผ่นป้ายทะเบียน เช่น ปิดแผ่นทองบนหมายเลขทะเบียน เพิ่มเติม ตัวเลขบนแผ่นป้ายทะเบียนรถ
- ใช้กรอบแผ่นป้ายลายกราฟิกปิดทับแผ่นป้ายทะเบียน
- ตัดแผ่นป้ายทะเบียนรถ
- แก้ไขดัดแปลงขนาดของล้อรถให้ล้นเกินตัวถัง
- อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง
วิธีแจ้งเบาะแส รถกระทำความผิด
กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยค่าปรับส่วนแรกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ส่วนที่เหลือจะนำมาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และมอบให้ผู้แจ้งพฤติการณ์การกระทำความผิด โดยการจ่ายเงินส่วนแบ่งค่าปรับให้ผู้แจ้งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. พฤติการณ์การกระทำความผิดที่แจ้งต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วน เช่น ภาพหรือคลิปวิดีโอ ต้องบันทึกการกระทำความผิดที่ชัดเจน วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดรถ ทะเบียนรถ และอื่นๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้แจ้งต้องระบุชื่อและนามสกุลของผู้แจ้ง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ ช่องทางการติดต่อ และในกรณีผู้แจ้งประสงค์จะขอรับเงินส่วนแบ่งค่าปรับ ให้ระบุหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้แจ้งด้วย โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปกปิดเป็นความลับ
2. ช่องทางในการติดต่อ เมื่อรวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1584, Line@ : @1584DLT, Facebook: 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ, เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ หรือ https://www.dlt.go.th/, E-mail: dlt_1584complain@hotmail.com, เดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง หรือร้องเรียนผ่านศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ “GECC 1111 ทำเนียบรัฐบาล” และ “GECC กรมการขนส่งทางบก”
3. ผู้แจ้งจะได้รับข้อความ SMS ยืนยันการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน
- เปิดโผถนน 25 สายทั่วไทย เหยียบ 120 กม./ชม. ปลายปีนี้
-
ขับเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีเดย์วันนี้ ช่วง อยุธยา-บางปะอิน
4. กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตามกระบวนสืบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้แจ้ง โดยเรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมารายงานตัวและสอบสวนจนได้ข้อยุติ
5. การรับเงินส่วนแบ่งจะได้รับภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบปรับแล้ว จะมีข้อความ SMS ส่งให้ผู้แจ้งทราบผลการดำเนินการและจะดำเนินการโอนเงินส่วนแบ่งค่าปรับภายใน 15 วันทำการ
อย่างไรก็ตาม ยังมีพฤติกรรมการขับรถอื่นๆ ที่ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 เช่น การขับรถย้อนศร ฝ่าไฟแดง จอดรถในที่ห้ามจอด แซงในเส้นทึบ ไม่ปฎิบัติตามสัญญาณจราจร เป็นต้น ถึงจะแจ้งจับแล้วไม่ได้รับส่วนแบ่ง 50 % แต่เป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก
วันพฤหัสบดีที่21เมษายน2565เมื่อเวลา12.22น.ได้มีรถ10ล้อพ่วงวิ่งเข้าไปในถนนเส้นกลางทั้งๆที่ป้ายจราจรติดอยู่ที่ปากซอยถนนเส้นกลาง
ป้ายใหญ่เห็นชัดเจนโดยเจ้าหน้าที่สถานีตำตรวจภูธรบ้านผือได้ติดใว้เพื่อไม่ให้รถพวงใช้ถนนเส้นนี้เพราะจะทำให้ถนนเสียหาย
แต่รถพ่วงคันนี้ฝ่าฝืนได้ขับเข้าไปในซอยถนนเส้นกลางตามที่เห็นตามภาพรถพ่วงคันนี้ไม่ไม่สนสายตาชาวชุมชนที่อยู่ในซอยนี้ถนนเส้นกลางเส้นนี้เจ้าหน้าที่สภ.บ้านผือห้ามไม่ให้รถพ่วงเข้าอยู่แล้วแต่รถพ่วงคันดังกล่าวที่เห็นตามภาพจะแก้ไขอย่างไรดีชาวชุมชนเดือดร้อน
วอนคนขับรถพ่วงครั้งต่อไปให้ความร่วมมือด้วยนะครับ เห็นมาบอกไป
ต้องใส่ใจการจราจร
เปิดโทษและค่าปรับ หากขับรถผิดกฎจราจร
- ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถบนทางเท้า ปรับ 500 บาท
- แซงในเส้นทึบ ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถขวางทางแยก ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ฝ่าสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ท่อแต่งเสียงดัง ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ติดไฟนีออนใต้ท้องรถ ติดไว้กับป้ายทะเบียน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ขับรถบนทางเท้า ปรับ 400-1,000 บาท
- หยุดรถล้ำเส้นหยุด ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 500 บาท
- จอดรถกีดขวางการจราจร ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนวางไว้ที่กระจก ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ใช้ป้ายแดงเกิน 1 เดือน หรือวิ่งระยะทางเกิน 3,000 กิโลเมตร โดยใช้ป้ายแดง ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- แผ่นป้ายทะเบียนปลอม มีความผิดทางอาญา ฟ้องศาล!
- เมาแล้วขับ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบขับขี่และสามารถยึดรถไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน
ความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 (รถส่วนบุคคล)
ซึ่งทางการขนส่งทางบก ให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้เช่นกัน โดยมีข้อหาการกระทำความผิด ได้แก่
- ดัดแปลงไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ทำให้สีของแสงไฟไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (ไฟท้ายต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวต้องเป็นสีเหลืองอำพัน)
- ดัดแปลงหรือเพิ่มเติมอุปกรณ์ส่วนควบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น เช่น รถกระบะต่อเติมตัวถัง หรือโครงหลังคาเกิน 3 เมตร
- นำวัสดุอื่นใดมาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน
- แขวนหรือติดตุ๊กตาบดบังแผ่นป้ายทะเบียน
- ทำให้ไม่สามารถมองเห็นตัวอักษรตัวเลข หรือจังหวัดได้ชัดเจน
- แก้ไขหรือดัดแปลงตัวเลขบนแผ่นป้ายทะเบียน เช่น ปิดแผ่นทองบนหมายเลขทะเบียน เพิ่มเติม ตัวเลขบนแผ่นป้ายทะเบียนรถ
- ใช้กรอบแผ่นป้ายลายกราฟิกปิดทับแผ่นป้ายทะเบียน
- ตัดแผ่นป้ายทะเบียนรถ
- แก้ไขดัดแปลงขนาดของล้อรถให้ล้นเกินตัวถัง
- อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง
วิธีแจ้งเบาะแส รถกระทำความผิด
กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยค่าปรับส่วนแรกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ส่วนที่เหลือจะนำมาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และมอบให้ผู้แจ้งพฤติการณ์การกระทำความผิด โดยการจ่ายเงินส่วนแบ่งค่าปรับให้ผู้แจ้งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. พฤติการณ์การกระทำความผิดที่แจ้งต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วน เช่น ภาพหรือคลิปวิดีโอ ต้องบันทึกการกระทำความผิดที่ชัดเจน วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดรถ ทะเบียนรถ และอื่นๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้แจ้งต้องระบุชื่อและนามสกุลของผู้แจ้ง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ ช่องทางการติดต่อ และในกรณีผู้แจ้งประสงค์จะขอรับเงินส่วนแบ่งค่าปรับ ให้ระบุหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้แจ้งด้วย โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปกปิดเป็นความลับ
2. ช่องทางในการติดต่อ เมื่อรวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1584, Line@ : @1584DLT, Facebook: 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ, เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ หรือ https://www.dlt.go.th/, E-mail: dlt_1584complain@hotmail.com, เดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง หรือร้องเรียนผ่านศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ “GECC 1111 ทำเนียบรัฐบาล” และ “GECC กรมการขนส่งทางบก”
3. ผู้แจ้งจะได้รับข้อความ SMS ยืนยันการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน
- เปิดโผถนน 25 สายทั่วไทย เหยียบ 120 กม./ชม. ปลายปีนี้
-
ขับเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีเดย์วันนี้ ช่วง อยุธยา-บางปะอิน
4. กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตามกระบวนสืบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้แจ้ง โดยเรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมารายงานตัวและสอบสวนจนได้ข้อยุติ
5. การรับเงินส่วนแบ่งจะได้รับภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบปรับแล้ว จะมีข้อความ SMS ส่งให้ผู้แจ้งทราบผลการดำเนินการและจะดำเนินการโอนเงินส่วนแบ่งค่าปรับภายใน 15 วันทำการ
อย่างไรก็ตาม ยังมีพฤติกรรมการขับรถอื่นๆ ที่ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 เช่น การขับรถย้อนศร ฝ่าไฟแดง จอดรถในที่ห้ามจอด แซงในเส้นทึบ ไม่ปฎิบัติตามสัญญาณจราจร เป็นต้น ถึงจะแจ้งจับแล้วไม่ได้รับส่วนแบ่ง 50 % แต่เป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก